Need for Speed Hot Pursuit Remastered การกลับมาของเกมไล่ล่าสนั่นเมือง
คอเกมสายนิยมความเร็ว น่าจะเคยได้ผ่านหูผ่านตา หรือเคยได้สัมผัสกับเกม Need for Speed กันมาบ้าง เพราะเป็นซีรีย์เกมสายซิ่ง ไล่ล่ากันมันสนั่นเมืองอันโด่งดัง และเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา Nedd for Speed ได้เดินทางมาถึงภาคล่าสุด ได้แก่ Hot Pursuit Remastered
ภาคนี้เป็นภาคที่โดดเด่นอย่างมากในฟีเจอร์การหลบหนีการไล่ล่า รวมถึงการกลายเป็นผู้ล่าเองก็ได้ นับเป็นอีกภาคที่แฟน ๆ ต้องหามาเล่น และวันนี้ HappyConsole จะพาคุณไปสรุปข้อมูลทั้งหมดของ Need for Speed: Hot Pursuit เพื่อประกอบการตัดสินใจ
การแข่งรถไม่ใช่แค่การแข่งในสนาม Need for Speed เป็นซีรีส์ที่ตอบโจทย์ตรงนี้ คุณไม่ต้องเป็นนักแข่ง F1 ไม่ต้องเป็นนักแข่งออฟโรดส์ ในโลกของ Need for Speed นักแข่งข้างถนนก็ถือว่ามีเกียรติ ในภาค Need for Speed: Hot Pursuit คุณจะได้ตะลุยแข่งรถในฐานะนักแข่งนิรนาม ที่ต้องการแสดงให้เมือง Seacrest County เห็นว่า คุณเป็นนักแข่งที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดเท่าที่เมืองนี้เคยมีมา
ฉากของเกมจะตั้งอยู่ในเมือง Seacrest County เมืองสมมติที่นำรัฐทั้งสามของสหรัฐอเมริกามาผสมกัน ได้แก่แคลิฟอเนีย โอเรกอน และวอร์ชิงตัน ทำให้เกิดเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์มากมาย ในบางครั้งอาจสร้างความประทับใจให้คุณระหว่างขับรถ แต่บางครั้ง พื้นที่เหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคชั้นดีระหว่างที่คุณโดนไล่ล่า
พูดง่าย ๆ ว่าภาคนี้ เป็นการกลับสู่รากเหง้าเดิมตั้งแต่ต้นของ Need for Speed เพราะก่อนที่ซีรีส์นี้จะโด่งดังสมัย Underground พวกเขาเคยมีภาพลักษณ์แบบนี้มาก่อน โดยเกมเพลย์ในภาคนี้จะเป็นการนำคอนเซปต์สมัยภาค Need for Speed III: Hot Pursuit และ Need for Speed: Hot Pursuit 2 มาใช้ ซึ่งเกมเพลย์ของทั้งสองภาค มีความเกี่ยวข้องกับการไล่ล่าแทบทั้งนั้น
โหมดเล่นคนเดียวของ Need for Speed Hot Pursuit Remastered กินเวลามากกว่า 12 ชั่วโมง แต่คุณสามารถเล่นซ้ำได้ต่อเนื่องเรื่อย ๆ โดยจะประกอบด้วยโหมดหลัก ๆ อยู่ไม่กี่แบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับไล่ล่ากับตำรวจ ขับจับเวลา ขับรถแข่งแบบปกติ แต่ก็ยังมีโหมดยิบย่อยหลาย ๆ อย่างให้คุณทดลอง แต่ความสนุกที่แท้จริงของเกมไม่ได้อยู่ที่โหมดเล่นคนเดียว มันอยู่ที่โหมดออนไลน์ต่างหาก
ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมรถแข่ง โหมดออนไลน์ก็มีการแข่งรถเกิดขึ้นเหมือนกัน แต่จุดเด่นไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่จะอยู่ในส่วนของโหมดไล่ล่า ที่จะจำลองผู้เล่นเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรก คือฝ่ายนักแข่งข้างถนน และฝ่ายตำรวจ โดยแต่ละฝ่ายจะมีจุดเด่นต่างกัน ฝ่ายนักแข่งจะมีความเร็วที่สูงมากกว่า แต่จะไม่มีอำนาจในการสร้างความเสียหายให้ฝ่ายตำรวจ ยกเว้นแค่การใช้ Radar Jam ในการพังอำนาจการสั่งการของตำรวจในระยะเวลาสั้น ๆ
ฝ่ายตำรวจแม้จะมีความเร็วที่น้อยกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะน้อยกว่ามาก พวกเขายังพอมีอำนาจในการไล่ตามเหล่านักแข่งรถอยู่ ที่พิเศษคือพวกเขามีอาวุธที่เกิดขึ้นเพื่อไล่ล่าเหล่านักแข่งข้างถนนด้วย คุณสามารถใช้อุปกรณ์ประเภท EMP เพื่อทำให้ GPS รวน หรือรถดับได้ ไม่ก็ใช้ตะปูเรือใบ โรยเพื่อลดความเร็วของศัตรู ทำให้รถเสียหลัก หรือไม่ก็เรียกทีม Roadblock มาไล่ปิดถนนก็ทำได้ โดยหลังจากการเล่นหลาย ๆ ครั้ง อุปกรณ์ใหม่ ๆ จะถูกปลดล็อคออกมา ทำให้คุณอยากจะเล่นเกมนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การไล่ล่าครั้งใหม่
นอกจากเรื่องคอนเทนต์ใหม่ ๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้ คือตัวเกมฉบับ Remastered จะมีรายละเอียดกราฟิกที่มากขึ้นตามแบบฉบับเกม Remastered ทั่วไป จุดนี้เราบอกเลยว่า ใครที่ไม่เคยสัมผัส Need for Speed: Hot Pursuit หรืออาจจะไม่เคยสัมผัสเกมนี้มาก่อน เกมนี้ถือเป็นเกมแข่งรถเกมแรกจากซีรีส์ Need for Speed ที่คุณเลือกเล่นได้แบบไม่ต้องซีเรียสอะไร เพราะมันไม่มีอะไรเลย นอกจากความมันส์เท่านั้น
ราคาเปิดตัว
PS4- Need for Speed Hot Pursuit Remastered ราคา 1,390 บาท
Switch- Need for Speed Hot Pursuit Remastered ราคา 1,390 บาท
——————————————