โทรศัพท์มือถือแบบ analog ในยุคนั้นมีฟังก์ชั่นค่อยข้างน้อย จะใช้ฟังก์ชั่นหลักๆ คือใช้ฟังก์ชั่นในการโทรเสียง การส่ง SMS ซึ่งในยุคนั้น โทรศัพท์ไม่ค่อยมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โทรศัพท์ในช่วงนั้นมีราคาสูง กลุ่มคนส่วนมากมักจะใช้เพียงกลุ่มนักธุรกิจ หรือผู้ที่มีฐานะ
โทรศัพท์มือถือแบบ digital มีพัฒนาการส่งคลื่นเสียงมาทางไมโครเวฟ ช่วยในเรื่องความคมชัดของสัญญาณเสียง และความปลอยภัยในการใช้งานมากขึ้น การให้บริการมีการทำงานแบบ circuit switching ที่ความเร็ว 9.6-14.4 kbp
โทรศัพท์มือถือแบบ digital พัฒนามาตั้งแต่ 2G ไปจนถึง 2.75G ในระหว่างนั้น โทรศัพท์ก็ได้เริ่มพัฒนาเข้าสู่ยุคหน้าจอสี เสียงเรียกเข้าก็เปลี่ยนมาเป็นแบบ MP3 และ GPRS ถูกพัฒนาต่อยอดมาเป็น EDGE มาจนถึงโทรศัพท์มือถือ digital ระบบ 3G
ในช่วงระบบ 3G ยุคนี้จะรองรับการส่งข้อมูลโดยตรง มีคลื่นความจุและความถี่มากขึ้น ทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือนั้นเร็วมากขึ้นแบบก้าวกระโดด และพัฒนาไปจนถึง 3.5G
โทรศัพท์มือถือแบบ Real-Digital ระบบ 4G พัฒนาในเรื่องความเร็วในการใช้อินเตอร์เน็ต ที่ทำได้เร็วขึ้นถึง 100 Mpbs ยังสามารถใช้งานบน Tablet เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการดูไฟล์วีดิโอออนไลน์ด้วยความคมชัด และไม่มีการกระตุก, การสื่อสารข้ามประเทศ อย่างโทรศัพท์แบบเห็นหน้ากันแบบโต้ตอบทันที (Video Call) หรือจะเป็นการประชุมผ่านโทรศัพท์ (Mobile teleconferencing) ก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น
ติดตามและไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวของ ข่าวIT